หลายคนอยากจะรับเลี้ยงน้องแมวด้วยเหตุผลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเพื่อหาเพื่อนคลายเหงา หรือเพราะความน่ารักน่าเอ็นดู ซึ่งการรับเลี้ยงน้องแมวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ ถ้าอยากดูแลเจ้าเหมียวให้ดี ๆ อยู่กับเราไปนาน ๆ คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจะรับเลี้ยงแมวจะต้องศึกษาเกี่ยวกับตัวของน้องให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นลักษณะนิสัย ร่างกาย อาหารการกิน หรือวิธีการดูแลและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับตัวเขา แต่ไม่ต้องคิดมากเลยครับ วันนี้ หมอเอ็ม Ultravet-Pet Clinic จะพามาทำความรู้จักสายพันธุ์ของน้องแมวน่าเลี้ยง สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี? สายพันธุ์แมวน่ารัก ๆ มีอะไรบ้าง? มาชมกันเลยครับ
แมวแต่ละสายพันธุ์ แตกต่างกันไหม? ทำไมต้องเลือกให้ดี

สายพันธุ์น้องแมวบนโลกนี้มีหลากหลายชนิดมาก ๆ เลยครับ ทั้งแมวป่า แมวเลี้ยง สิงโต หรือเสือ ล้วนแต่เป็นสัตว์ตระกูลแมวกันทั้งนั้น และแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีความแตกต่างกันไป ทั้งลักษณะทางกายภาพ ลักษณะนิสัย หรือวงจรชีวิต ทำให้แมวแต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกันมาก บางสายพันธุ์เหมาะกับการเลี้ยงในอากาศเย็น บางสายพันธุ์เหมาะกับการเลี้ยงในเขตร้อน หรือบางชนิดก็ต้องดูแลเรื่องขนเป็นพิเศษ แต่บางชนิดก็ไม่ขนด้วยซ้ำ ดังนั้น หากว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะรับเลี้ยงน้องแมวแม้เพียงตัวเดียว ก็จะต้องศึกษาให้ดีว่าแต่ละตัวมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง แล้วค่อยตัดสินใจให้ถี่ถ้วนว่าจะเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี การดูแลน้องแมวจะได้เป็นไปอย่างราบรื่นต่อ ๆ ไปครับ
รวม 12 สายพันธุ์แมวน่ารัก เลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี? ต้องนี่เลย!
มาถึงหัวข้อที่ทุกคนรอคอยกันแล้วครับ! กับสายพันธุ์แมวน่ารัก สายพันธุ์แมวน่าเลี้ยง ที่ได้รับความนิยมกว่า 12 สายพันธุ์ หมอจะจำแนกความแตกต่างออกเป็น 3 อย่างอันเป็นสิ่งที่จะต้องพิจารณาก่อนรับเลี้ยง ได้แก่ ลักษณะทางกายภาพ ลักษณะนิสัย และการดูแลเบื้องต้น ดังนี้ครับ
1.อเมริกัน ช็อตแฮร์ (American Short Hair)

เจ้าเหมียวสายพันธุ์ขนสั้นที่ไม่ว่าจะถามใครก็ต้องเป็นอันรู้จัก เพราะอเมริกัน ช็อตแฮร์เป็นสายพันธุ์แมวน่ารักน่าเลี้ยง อันดับต้น ๆ ของโลกเลยครับ เพราะหน้าตาของน้องน่ารักมาก ๆ แถมนิสัยดี กินง่ายอยู่ง่าย เหมาะกับคนที่พึ่งจะเริ่มเลี้ยงแมวตัวแรก นึกไม่ออกว่าจะเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี? เลือกอเมริกัน ช็อตแฮร์ได้เลยครับ
ลักษณะทางกายภาพ |
ขนาดกลางถึงใหญ่ น้ำหนักเฉลี่ย 4-7 กิโลกรัม มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง หน้ากลม ใบหูขนาดกลางและกลม ตากลมโต สีที่พบมากที่สุดคือ ลายสลิด ขนสั้นสวยงาม |
ลักษณะนิสัย |
กินง่ายอยู่ง่าย ค่อนข้างสงบแต่ก็ชอบทำกิจกรรม ตื่นตัว ไม่ขี้กลัว แต่ก็ไม่ได้ขี้อ้อนมาก เหมาะสำหรับเลี้ยงในครอบครัว หรือครอบครัวที่มีเด็ก |
การดูแลเบื้องต้น |
ไม่จำเป็นต้องเล่นกับน้องตลอดเวลา เพราะไม่ได้ติดคน เพียงแค่มาเล่นด้วยเป็นครั้งคราวก็เพียงพอ ส่วนการดูแลขน แค่หวีขนให้น้องสัก 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็ได้ครับ เพราะน้องเป็นแมวขนสั้น ไม่ได้ต้องการการดูแลมาก |
2. บริทิช ช็อตแฮร์ (British Short Hair)

จะเลือกเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี? ที่น่ารักขี้อ้อน บริทิช ช็อตแฮร์ ต้องเป็นอีกหนึ่งแมวสายพันธุ์ขนสั้นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทยเลยครับ ด้วยหน้าตาที่ดูซนและรูปร่างอ้วนท้วมกลมก้อนไปทุกส่วน ทำให้น้องแมวบริทิช ช็อตแฮร์น่าฟัดสุด ๆ แถมน้องยังเป็นหนึ่งในแมวสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของอังกฤษ แถมพฤติกรรมต่าง ๆ ของน้องบริทิช ช็อตแฮร์ก็เรียกได้ว่าสมกับเป็นผู้ดีอังกฤษเลยเชียว
ลักษณะทางกายภาพ |
ขนาดกลางถึงใหญ่ น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 4-9 กิโลกรัม หน้ากลมแก้มยุ้ย ใบหูและดวงตากลม หน้าอกหนา มีหลากหลายสี แต่สีที่จะพบได้บ่อยที่สุดและเป็นเอกลักษณ์ของแมวสายพันธุ์นี้คือ สีบลูหรือสีสวาดครับ |
ลักษณะนิสัย |
เรียบร้อย เข้ากับคนง่าย ติดคนมาก ๆ เพราะชอบการถูกเอาใจใส่ ชอบเล่นแบบปานกลาง แต่ค่อนข้างสงบ ไม่เสียงดัง สุภาพอ่อนโยนแต่ค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง |
การดูแลเบื้องต้น |
ปัญหาที่พบบ่อยในบริทิช ช็อตแฮร์มักจะเป็นโรคเหงือกอักเสบและโรคหัวใจ อาจจะต้องดูแลสุภาพปากเป็นพิเศษ นอกเหนือจากนั้น ดูแลเหมือนกับอเมริกัน ช็อตแฮร์ได้เลยครับ |
3. เปอร์เซีย (Persian)

สายพันธุ์แมวน่ารักน่าเลี้ยงที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เลือกว่าจะเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดีมองหา ด้วยลุคคุณหนูคุณนายของน้องเหมียวเปอร์เซีย ให้ภาพลักษณ์รวย ๆ ในภาพยนต์หลายเรื่อง ทำให้แมวเปอร์เซียเป็นสายพันธุ์แมวน่าเลี้ยงที่ได้รับความนิยมเอามาก ๆ และเป็นสายพันธุ์แมวขนยาวที่ได้รับการยกย่องว่ามีบรรพบุรุษเป็นแมวทะเลทรายอีกด้วยครับ
ลักษณะทางกายภาพ |
ขนยาวสลวย ดวงตากลมโต กะโหลกกลม หูเล็กปลายมน หน้าสั้นและแบน ลักษณะเด่นคือจมูกที่หักเมื่อมองจากด้านข้าง สีที่พบได้บ่อยที่สุดคือขาว ครีม ดำ |
ลักษณะนิสัย |
เงียบสงบและไม่ซน ชอบการอยู่นิ่ง ๆ ใกล้เจ้าของ เป็นมิตรแต่ไม่ชอบถูกก่อกวน รักสันโดษ ชอบอยู่ที่เงียบ ๆ ไม่เอะอะ |
การดูแลเบื้องต้น |
มีโรคประจำตัวหลายอย่าง ตั้งแต่น้ำตาไหลมาก ฟันสบไม่ปกติ หายใจลำบากเพราะจมูกแคบ ขนยาว ต้องหมั่นแปรงขนและดูแลความสะอาดของดวงตาเป็นพิเศษ (แมวน้ำตาไหลเยอะ ตาแฉะเพราะอะไร? อ่านเพิ่ม แมวตาแฉะ ปัญหาตาในน้องแมว ที่ควรระวัง!) |
4. สฟิงซ์ (Sphinx

สฟิงซ์ (Sphinx) เป็นแมวสายพันธุ์ที่คนไม่ค่อยนิยมเลี้ยงกันมากนัก แต่สำหรับคนที่แพ้ขนแมว แต่อยากเลี้ยงเหมียวเอาไว้สักตัว ไม่รู้จะเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี ต้องสายพันธุ์สฟิงซ์เท่านั้นครับ เพราะจุดเด่นของแมวสฟิงซ์คือฉายาแมวไร้ขน อันเนื่องมาจากขนที่สั้นและบางมาก ๆ จนแทบจะมองไม่เห็น เป็นสายพันธุ์ที่เหมาะกับคนแพ้ขนสัตว์มาก ๆ ครับ
ลักษณะทางกายภาพ |
ขนสั้นมาก หูใหญ่ปลายแหลม ไม่มีหนวดและขนตา ดวงตากลมรี ตัวเพรียวบาง ร่างกายบางจุดจะมีรอยย่นตามข้อต่อ อุณหภูมิร่างกายสูงกว่าแมวปกติ มีหลายสีแซมกันไป |
ลักษณะนิสัย |
เป็นมิตรมาก เข้าสังคมเก่ง ติดคน แต่จะเข้ากับเด็กได้ไม่ง่ายเท่าไหร่ ต้องค่อย ๆ ทำความรู้จักกัน โดยทั่วไปมีนิสัยขี้เล่น พลังงานสูง และพูดเก่ง ชอบอากาศร้อน กินเก่ง หวงเจ้าของมาก ไม่เหมาะกับการเลี้ยงร่วมกับสัตว์ตัวอื่น |
การดูแลเบื้องต้น |
เน้นดูแลผิวหนังให้ไม่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวหนังก็พอครับ ออกจากบ้านควรทาครีมกันแดดให้น้อง อาบน้ำและถูตัวให้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และทำความสะอาดใบหูให้ดีเพื่อป้องกันเชื้อราด้วย |
5. สก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold)

เจ้าแมวหูตกที่ไม่ว่าจะถามใครว่าเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี เจ้าแมวสก๊อตติชโฟลด์จะต้องติดโผอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอนครับ เพราะด้วยลักษณะใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มเหมือนออดอ้อนเจ้าของอยู่ตลอดเวลา เหมาะกับคนที่อยากได้น้องแมวตัวเล็ก ๆ บอบบาง ตัวอย่างน้องแมวสก๊อตติช โฟลด์ชื่อดังในไทย ก็คงต้องเป็นน้องชิเอลจากบ้านชิเอลแมวมึน เป็นพันธุ์สก๊อตติชที่น่ารักมาก ๆ ครับ
ลักษณะทางกายภาพ |
หูสั้นพับไปด้านหน้าหรือพับแนบไปกับหัว หน้ากลม ตาโต ขนาดกลาง ๆ กะทัดรัด น้ำหนักราว 3-6 กิโลกรัม จมูกสั้นและแบน คอสั้นกว่าสายพันธุ์อื่น |
ลักษณะนิสัย |
ชอบนอนหงาย ฉลาด ชอบของเล่นที่ซับซ้อน ติดคนมาก ให้ความสนใจกับเจ้าของสุด ๆ เพราะมีนิสัยขี้เล่น เลี้ยงร่วมกับแมวตัวอื่นได้เพื่อไม่ให้น้องเหงา |
การดูแลเบื้องต้น |
ไม่ต้องแปรงขนบ่อย แค่หนึ่งครึ่งต่อสัปดาห์ก็พอ หากไม่อยู่บ้านบ่อยควรหาเพื่อนให้น้องด้วยครับ เพราะน้องขี้เหงามาก ๆ |
6. แร็กดอลล์ (Ragdoll)

จะเห็นได้ว่าน้องแมวสายพันธุ์น่าเลี้ยงฉายาแมวตุ๊กตาผ้าอย่างแร็กดอลล์ มีความคล้ายคลึงกับน้องแมวพันธุ์เปอร์เซียมาก นั่นก็เพราะแร็กดอลล์ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาจากแมวเปอร์เซียผสมกับแมวสายพันธุ์แองโกร่านั่นเองครับ ทำให้หน้าตาและรูปร่างของน้องเหมียวมีความละม้ายคล้ายกันกับเปอร์เซีย แต่จะมีจุดแตกต่างอยู่เล็กน้อยครับ
ลักษณะทางกายภาพ |
มีขนนุ่มและยาว ส่วนหัวกว้าง คอสั้น แต่ขายาว หางเป็นพวงนุ่มฟู ขนละเอียด มีหลากหลายสี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสีพื้นและแต้มด้วยสีเข้มตามจุดต่าง ๆ ตั้งแต่ปลายหู รอบดวงตา และหาง |
ลักษณะนิสัย |
นิสัยที่เด่นที่สุดคือความขี้อ้อน แต่เรียบร้อยสงบเสงี่ยม ปรับตัวได้ง่าย เข้ากับคนอื่น ๆ ได้ดี ชอบการถูกอุ้ม เลี้ยงในบ้านที่มีเด็กได้ และด้วยนิสัยที่เรียบง่าย ทำให้เหมาะกับการเลี้ยงในอะพาร์ตเมนต์หรือคอนโดด้วยครับ |
การดูแลเบื้องต้น |
ขนที่ยาวและละเอียดทำให้ต้องเน้นการดูแลขนของน้องให้มากที่สุดครับ และแร็กดอลล์เป็นแมวอ้วนง่าย จะต้องดูแลเรื่องอาหารการกินอย่างละเอียด และเล่นด้วยบ่อย ๆ เป็นการออกกำลังกายครับ |
7. เบงกอล (Bengal)

พอลองค้นว่าจะเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี? มีเจ้าแมวพันธุ์เบงกอลขึ้นมาในลิสต์ก็คงจะตกใจกันบ่อย ๆ นะครับว่าเราเลี้ยงเสือได้ด้วยเหรอ จริง ๆ เบงกอลเป็นสายพันธุ์แมวชนิดหนึ่งที่มีลวดลายเหมือนเสือเท่านั้นครับ ไม่ใช่เสือเบงกอลจริง ๆ เพราะน้องถูกพัฒนาสายพันธุ์มาจากแมวดาวและแมวบ้านนั่นเองครับ
ลักษณะทางกายภาพ |
มีรูปร่างลวดลายสวยงามเหมือนเสือจากัวร์ สีที่พบส่วนใหญ่คือสีน้ำตาลตัดดำ ขนสั้น หนาและนุ่ม หัวกลมเล็ก หูขนาดกลางปลายแหลม รูปร่างกำยำ ปราดเปรียว และมีขาที่แข็งแรงมาก ๆ |
ลักษณะนิสัย |
เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ฉลาดที่สุดเลยครับ ทั้งยังมีพลังงานสูงมาก ชอบการปีนป่ายและส่งเสียงดัง วิ่งเก่ง เป็นมิตรแต่ค่อนข้างหวงอาณาเขต บ้านที่มีเด็กไม่ควรรับเลี้ยงตอนโต แต่สามารถรับเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นลูกแมวเพื่อให้น้องปรับตัวง่ายขึ้นได้ครับ |
การดูแลเบื้องต้น |
ควรพาไปเล่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีของเล่นที่ให้ปีนป่ายได้ แต่ก็ต้องระวังการเลี้ยงในพื้นที่สูง ป้องกันน้องแมวตกจากที่สูงเพราะเล่นไม่ระวังจนได้รับบาดเจ็บ และให้ความสำคัญกับอาหารที่มีโปรตีนเป็นหลัก เพราะน้องต้องการพลังงานเยอะมาก ๆ |
8. เมนคูน (Maine Coon)

สายพันธุ์แมวน่าเลี้ยงที่มีหน้าตาเหมือนแร็คคูนเอามาก ๆ แถมยังมีขนาดตัวเฉลี่ยใหญ่ที่สุดในโลก เหมาะกับคนที่อยากได้แมวตัวใหญ่ ๆ ไซส์พอ ๆ กับน้องหมา ที่โด่งดังที่สุดก็คงจะเป็นน้องแมวจากภาพยนต์เรื่องดังอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์ ในชื่อ ‘คุณนายนอริส’ คุณเหมียวคู่ใจของภารโรงอาร์กัส เจ้าเหมียวแสนฉลาดที่ใคร ๆ ก็อยากได้ ด้วยขนาดตัวและขนที่นุ่มฟู
ลักษณะทางกายภาพ |
ขนาดใหญ่มาก ขนตั้งแต่หน้าอกลงไปจะยาวมาก แต่ขนบริเวณหัวและไหล่จะค่อนข้างสั้น บางตัวจะมีขนรอบ ๆ คอคล้ายกับแผงคอของสิงโต |
ลักษณะนิสัย |
เป็นมิตรมาก ๆ มีไหวพริบ ใจเย็นและปรับตัวเก่ง เหมาะกับการเลี้ยงในครอบครัวที่มีเด็ก เพราะเมนคูนชอบอยู่กับคนเยอะ ๆ แต่เรียบร้อยและใจดี |
การดูแลเบื้องต้น |
เมนคูนมีขนที่ยาวมากเพราะเป็นแมวเมืองหนาว ต้องเลี้ยงในห้องแอร์เท่านั้น หมั่นแปรงขนทุกวันสม่ำเสมอ เล็มขนบริเวณอุ้งเท้าและข้อต่อเพื่อไม่ให้ขนพันกัน แม้จะดูเลี้ยงยากสักหน่อย แต่น้องน่ารักกับเจ้าของแน่นอนครับ |
9. อเมริกัน เคิร์ล (American Curl)

เป็นอีกหนึ่งน้องเหมียวที่น่ารักน่าชังมาก ๆ เลยครับ เพราะน้องมีใบหูที่เป็นเอกลักษณ์สุด ๆ อเมริกัน เคิร์ลมีเชื้อสายมาจากสหรัฐอเมริกา โดยเป็ยแมวที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นมิตรและเข้ากับคนได้ง่าย และด้วยความน่ารักทั้งกายและใจนี้ ทำให้คนที่กำลังหาว่าจะเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี? มองหาเจ้าเหมียวอเมริกัน เคิร์ลกันเป็นอันดับแรก ๆ แม้ว่าน้องจะเป็นสายพันธุ์แมวน่ารักที่ค่อนข้างหายากก็ตาม
ลักษณะทางกายภาพ |
ขนาดตัวค่อนข้างเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม มีทั้งแบบขนสั้นและยาว นุ่มลื่น ดวงตากลมโต หูสั้นตั้งและม้วนไปด้านหลัง สีที่มักพบได้บ่อยที่สุดคือ สีล้วนอย่างดำหรือขาว และอาจมีสีผสมสองสี ลายสลิด หรือสีแต้ม |
ลักษณะนิสัย |
มีความกระตือรือร้น มีชีวิตชีวา สนอกสนใจคน เป็นมิตรมาก อ่อนโยนและน่ารัก อยู่ร่วมกับแมวตัวอื่นหรือคนเยอะได้ดี เหมาะกับการเลี้ยงในครอบครัวที่มีเด็ก เพราะชอบเล่นหยอกล้อกับเจ้าของ |
การดูแลเบื้องต้น |
สำหรับพันธุ์ขนยาว ต้องหมั่นดูแลขนแมวให้มากกว่าพันธุ์ขนสั้น และต้องระวังเรื่องความสะอาดของใบหูให้ดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือเป็นเชื้อรา หากิจกรรมให้น้องทำบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้น้ำหนักเกิน |
10. วิเชียรมาศ (Siamese)

หากใครเป็นแฟนคลับการ์ตูนดิสนีย์ จะต้องรู้จักเจ้าแมวสยามสองแสบ จากเรื่องภาพยนต์อนิเมชั่นสุดน่ารักอย่าง Lady and the Tramp ปี 1955 อย่างแน่นอนครับ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นหนึ่งในภาพยนต์ที่ทำให้แมววิเชียรมาศหรือ Siamese cat เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก ลักษณะเด่นของเจ้าแมวสายพันธุ์นี้คือการเปลี่ยนแปลงของสีขน ที่จะเข้มกว่าเดิมเมื่อโตขึ้น จนเหล่าทาสชอบเอามาแซวว่าน้องไม่ทาครีมกันแดดจนหน้าไหม้นั่นเอง
ลักษณะทางกายภาพ |
ขนสั้น สีครีมหรือขาวทั้งลำตัวตอนเด็ก และจะเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลดำหากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็น แต่หากอยู่ที่ร้อน ขนจะกลายเป็นสีอ่อนลง เป็นแมวขนาดกลาง รูปร่างผอมเพรียว ประสาทสัมผัสไว ดวงตาสีฟ้าใสเหมือนแก้ว |
ลักษณะนิสัย |
เป็นนักล่า ระมัดระวังตัวเอง ช่างพูด ชอบเข้าสังคม อยากรู้อยากเห็นสิ่งใหม่ ๆ แต่ก็รักสงบ ขี้อ้อน และรักเจ้าของมาก ๆ เหมาะกับคนที่ชอบแมวพูดเก่ง ไม่เหงาแน่นอนครับ |
การดูแลเบื้องต้น |
ส่วนใหญ่แมววิเชียรมาศมักจะมีปัญหาเรื่องกระเพาะอาหารอ่อนแอ ท้องเสียง่าย ต้องดูแลเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ และต้องดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีร่วมด้วยครับ เรื่องขนไม่ต้องดูแลมาก เพราะน้องขนสั้น ไม่ต้องหวีบ่อย ๆ |
11. สีสวาดหรือแมวโคราช (Korat)

แมวเชื้อสายไทยลำดับที่สองที่คนนิยมเลี้ยงกันมากที่สุด เพราะนอกจากสีจะสวยเด่นเป็นเอกลักษณ์ เรียบหรูดูแพงที่สุดในย่าน น้องแมวโคราชยังนิยมเลี้ยงเพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว นำโชคเรื่องความรัก ความโชคดี และการพูด แถมน้องยังเป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวไม่กี่ชนิดที่มีเพียงแค่สีเดียวคือ สีเทาเข้มหรือสีเทาน้ำเงิน คล้ายกับสีของเจ้าแมวพันธุ์รัสเซียบลู
ลักษณะทางกายภาพ |
ขนาดกลาง มีกล้ามเนื้อแน่น ขนสั้นสีเทามันวาว ซึ่งจะมีความเงามากที่สุดเมื่ออายุ 2 ปี ดวงตากลมโตสีเขียวแกมเหลืองสว่าง |
ลักษณะนิสัย |
เป็นแมวที่ค่อนข้างจะติดคนและขี้สงสัยมาก ๆ ชอบอยู่ใกล้ ๆ ชอบการถูกสนใจ แถมยังชอบให้อุ้มหรือปีนมานั่งตักคนบ่อย ๆ แต่ไม่ได้เป็นแมวที่ช่างพูดเท่าไหร่นัก |
การดูแลเบื้องต้น |
ไม่ต้องหากิจกรรมให้ทำมากนัก เพราะน้องแมวสีสวาดชอบทำนั่นนี่ด้วยตัวเองบ่อยอยู่แล้ว เป็นการออกกำลังกายไปในตัว แต่ก็ต้องดูแลเรื่องอาหารที่ให้พลังงานและเสริมสร้างกล้ามเนื้อด้วย |
12. ขาวมณี (Khao Manee)

แมวขาวมณีเป็นหนึ่งในแมวที่มีขนสวยมาก ๆ ครับ และมีอยู่สีเดียวคือสีขาวตลอดทั้งลำตัว และมีสีตาสวยใสมาก ๆ ตัวอย่างแมวขาวมณีที่โด่งดังในไทย ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแมวเซเลปจากช่อง TikTok อย่าง น้องไข่ขาว ที่มีตาสีเหลืองทองล้วน หรือจะเป็นน้องเจอร์รี่กับอัลโบ้ ซึ่งเจอร์รี่จะมีตาสองสี ฟ้าและเหลือง ส่วนอัลโบ้มีตาสีฟ้าล้วน ซึ่งเป็นลักษณะตัวอย่างของแมวขาวมณีแท้ ๆ ครับ
ลักษณะทางกายภาพ |
ขนสั้นสีขาวปลอดทั้งตัว จมูก หู และอุ้งเท้าเป็นสีชมพู ดวงตากลมรีเหมือนเลมอน มีได้ทั้งสีเหลืองอำพัน ฟ้า หรือทั้งสองสี รูปร่างเพรียวบาง หัวเล็กเรียว |
ลักษณะนิสัย |
เป็นแมวที่ชอบเล่น ช่างสงสัย ชอบทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดเวลา อยากรู้อยากเห็น (เหมือนน้องเจอร์รี่คลิปแจ้งเกิดเลยครับ) เหมาะกับการเลี้ยงในครอบครัวที่มีเด็กหรือมีแมวตัวอื่นด้วย |
การดูแลเบื้องต้น |
ดูแลง่ายมาก ๆ ครับเพราะน้องเป็นแมวขนสั้น แต่ด้วยความที่เป็นสีขาว อาจจะต้องระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ และเวลาที่น้องขนร่วงอาจจะมองเห็นชัดเป็นพิเศษ ถ้าไม่ซีเรียสก็ไม่มีปัญหาครับ |
มือใหม่ต้องรู้! ธรรมชาติของน้องแมวที่ต้องใช้ความใส่ใจ

คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี เบื้องต้นก่อนรับเลี้ยงจะต้องทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับสายพันธุ์และลักษณะนิสัยของน้องแมวให้ดีครับ เพราะแมวแต่ละตัวจะมีการดูแลบางอย่างที่ไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงแมวจะต้องคำนึงถึงปัจจัยดังนี้
- พฤติกรรมของแมว ซึ่งจะมีนิสัยที่แตกต่างกันอันมาจากสัญชาตญานหรือนิสัยส่วนตัวก็ได้ หากทราบว่าปกติน้องแมวทำตัวอย่างไร มีกิจกรรมประจำวันอะไรบ้าง ก็จะช่วยให้เราสังเกตความผิดปกติในแต่ละวัน ซึ่งอาจบ่งบอกถึงโรคที่เราไม่คาดคิดได้
- พื้นที่ในการเลี้ยงแมว หลายคนอาจจะคิดว่าการเลี้ยงแมวนอกบ้านเป็นเรื่องปกติ แต่จริง ๆ แล้วเราควรเลี้ยงแมวระบบปิดมากกว่าครับ เพราะหากปล่อยให้น้องแมวออกไปข้างนอก อาจจะเสี่ยงกับการป่วยเพราะเชื้อโรค อันตรายจากสัตว์ตัวอื่น หรืออันตรายจากสิ่งแวดล้อม เช่น น้องแมวอาจถูกรถชน หรือถูกทำร้ายจากผู้ไม่หวังดีได้
- ความสะอาด เป็นสิ่งที่สำคัญมากที่จะช่วยให้น้องแมวเติบโตอย่างแข็งแรง ตั้งแต่ขน เท้า ซอกนิ้ว ใบหู หรืออวัยวะเพศ ล้วนต้องดูแลให้สะอาด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ เป็นเชื้อรา หรือป่วยง่าย
- อาหารการกิน ต้องให้ความสำคัญควบคู่กับความสะอาดเลยครับ น้องเหมียวแต่ละตัวต้องได้รับสาอาหารที่เพียงพอต่อร่างกาย และบางสายพันธุ์ก็ต้องควบคุมปริมาณสารอาหารต่าง ๆ เพื่อไม่ให้กลายเป็นแมวอ้วนอีกด้วย
- การรักษาโรค เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะมองข้าม แต่การป้องกันและรักษาโรคเป็นส่วนที่จะช่วยให้น้องแมวอยู่กับเรานาน ๆ นะครับ ยิ่งถ้าเลี้ยงน้องแมวที่มีโรคประจำตัวอย่างแมวเปอร์เซีย หรือแมวสฟิงซ์ ยิ่งต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
- เช็คด่วน! แมวกินอะไรได้บ้าง? เราให้อาหารถูกไหม?
- น้ำดื่มก็สำคัญ แมวกินน้ำอะไรได้บ้าง ทาสแมวต้องรู้!

ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงแมว เริ่มต้นต้องมีเท่าไหร่? ค่าใช้จ่ายแฝงมีไหม?
เป็นคำถามของว่าที่คุณพ่อคุณแม่ที่ถามกันบ่อยมากสุดรองจากคำถามเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดีเลยครับ ดูเผิน ๆ แล้วอาจจะเหมือนว่ามีค่าใช้จ่ายไม่เยอะมาก แต่จริง ๆ แล้ว การเลี้ยงแมวที่ดีจะต้องมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยมากมาย เพราะน้องแมวก็ถือเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องได้รับการดูแลไม่ต่างกับน้องหมา แฮมสเตอร์ หรืออื่น ๆ โดยจะมีรายละเอียดคร่าว ๆ ดังนี้ครับ
-
- ค่าตัวน้องแมว สำหรับคนที่สนใจรับเลี้ยงน้องแมวพันธุ์แท้ เริ่มต้นที่ 10,000 บาทขึ้นไป ถูกแพงขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่เลือก ถ้าเป็นแมวไทยก็จะถูกหน่อย ส่วนแมวต่างประเทศจะค่อนข้างราคาแพงถึงแพงมากครับ
- ค่าอาหาร เป็นค่าใช้จ่ายหลักที่ต้องมี เริ่มต้นบวกลบเดือนละประมาณ 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับความหลากหลายของอาหารและปริมาณ ไม่ว่าจะขนมแมวเลีย อาหารเปียก หรืออาหารเม็ด
- ค่าทรายแมว หากอยากให้น้องแมวมีสุขอนามัยที่ดี จะต้องมีทรายแมวไว้ให้น้องเข้าห้องน้ำ เริ่มต้นบวกลบเดือนละ 100 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพหรือยี่ห้อทรายแมวที่ใช้
- ค่าของเล่น บางครั้งที่ต้องอยู่คนเดียวหรือไม่ได้เล่นกับคุณพ่อคุณแม่ น้องแมวอาจจะเหงา จึงต้องมีของเล่นไว้แก้เหงาครับ เริ่มที่ 500 บาท แล้วแต่ชนิดของเล่น
- ค่ารักษาความสะอาด ตั้งแต่อาการอาบน้ำแปรงขน แชมพู ทิชชู่เปียก เริ่มต้นที่เดือนละ 3,500 บาท
- ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ตั้งแต่การตรวจสุขภาพ การรักษาโรค หรือค่าวัคซีน เพื่อให้น้องแมวมีสุขภาพที่แข็งแรง สำหรับการรับเลี้ยงน้องแมวจรจัด อาจจะเริ่มต้นปีแรกราว ๆ 5,000 บาทขึ้นไป แต่ถ้าเป็นน้องแมวจากฟาร์มเฉพาะ อาจจะไม่ต้องเสียค่าฉีดวัคซีน ทำให้ลดค่าใช้จ่ายแรกเริ่มไปได้ในระดับหนึ่งครับ
รวม ๆ แล้วจะเห็นได้ว่ามีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงแมวเริ่มต้นถึงหลักหมื่นเลยครับ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นแค่ค่าใช้จ่ายหลักเท่านั้น แรกเริ่มของการเลี้ยงน้องแมวจะมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ค่าอุปกรณ์อย่างกระบะทราบ ห้องน้ำแมว ที่นอน คอนโดแมว เครื่องมือพยาบาล ค่ายา ชามข้าว ค่าแชมพู กรรไกรตัดเล็บ เป็นต้น

สรุป
หวังว่าคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี จะเลือกสายพันธุ์แมวน่ารัก สายพันธุ์แมวน่าเลี้ยงชนิดไหน จะได้ทราบกันเบื้องต้นว่าแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะอย่างไร นิสัยแบบไหน เข้ากับคนได้ง่ายหรือเปล่า หากอยากเลี้ยงในสภาพแวดล้อมแบบนี้ต้องเลี้ยงแมวพันธุ์อะไรดี แต่สำหรับใครที่ไม่แน่ใจ หรืออยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมว่ารับเลี้ยงน้องแมวมาแล้วต้องทำอะไรบ้าง สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาผ่านช่องทางติดต่อด้านล่าง หรือลงทะเบียนปรึกษาเข้ามาได้เลยครับ
ติดต่อ – ปรึกษาแพทย์
- Lakeside Villa 1 เลขที่ 901/3-5 (Shop 2) หมู่ 15 ถนน บางนา-ตราด,
- กรุงเทพมหานคร อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540
- เวลาทำการ : 09.00 – 20.00 น. (หยุดวันอังคาร)
- เบอร์ติดต่อ : 065-526-5994
- Line : @Ultravet

สัตวแพทย์ประจำ
Ultravet Pet Wellness Clinic
น.สพ.ศุภกิตติ์ สีดำ (คุณหมอเอ็ม)