ทาสที่มีน้องแมวเป็นเจ้านาย พลาดไม่ได้เลยนะครับกับเรื่องอาหารการกิน หากเผลอไปให้อาหารต้องห้าม อาจทำให้น้องแมวของเราตายไปเลยก็เป็นได้! โดยทั่วไปแล้วแมวจะค่อนข้างเลือกกิน หรือกินแต่ของที่ชื่นชอบ จนทำให้ในบางครั้งแมวของเราได้รับสารอาหารมากเกินไปหรือไม่เพียงพอต่อร่างกาย เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องแมว ทาสอย่างเราควรทราบว่าแมวกินอะไรได้บ้าง กินอะไรไม่ได้บ้าง และอาหารแบบไหนเหมาะกับน้องแมวในแต่ละช่วยวัย – หมอเอ็ม สัตวแพทย์ประจำ Ultravet Pet
ก่อนที่เราจะไปหาคำตอบว่าแมวกินอะไรได้บ้าง หมอขอแนะนำให้ทำความรู้จักกับประเภทของอาหารแมวกันก่อนนะครับ ว่าอาหารแมวมีแบบไหนบ้าง? ต้องบอกว่าอาหารแมวมีอยู่หลายแบบมาก แต่ละตัวจะเหมาะกับน้องแมวที่ช่วงอายุแตกต่างหัน รวมไปถึงการกำหนดมื้ออาหารที่เหมาะสมสำหรับอาหารแมวแต่ละแบบด้วย อาหารบางประเภทควรให้เป็นอาหารหลัก ส่วนอาหารบางประเภทควรให้เสริมเท่านั้น เพราะถ้าให้มากเกินไปก็อาจจะเกิดโทษต่อร่างกายน้องแมวของเราแทนนั่นเอง เรามาดูกันดีกว่าครับว่าอาหารแมวแต่ละประเภทมีแบบไหนบ้าง??
- อาหารเม็ดแบบแห้ง
นอกจากจะช่วยให้สารอาหารได้ดีแล้ว ยังช่วยบำรุงสุขภาพช่องปากของน้องแมวของเราอีกด้วย ซึ่งอาหารเม็ดสำหรับแมวก็มีให้เลือกหลายเกรดหลายสูตร ก่อนซื้ออย่าลืมตรวจเช็คก่อนนะครับ ว่าเหมาะกับน้องแมวของเราหรือไม่
- อาหารเปียกที่บรรจุอยู่ในซองหรือกระป๋อง
อาหารแมวประเภทนี้เป็นอาหารที่ถูกปรุงรสชาติมาแล้ว (อาหารสำเร็จรูป) จึงมีกลิ่นหอมเย้ายวนใจน้องแมวเป็นอย่างดี ทำให้น้องแมวส่วนใหญ่ชื่นชอบ นอกจากนี้ ยังเหมาะกับแมวที่ไม่ค่อยทานน้ำอีกด้วย
- อาหารเสริมหรือขนมแมว
ใช้สำหรับเสริมเพิ่มเติมจากมื้ออาหารหลัก เพื่อให้แมวได้รับสารอาหารอื่น ๆ เพิ่มเข้าไป อาจจะช่วยให้แมวขับถ่ายดีขึ้น มีระบบย่อยอาหารที่ดีขึ้น ฟื้นฟูร่างกาย หรือให้ทานเล่นเป็นขนมก็ย่อมได้
- อาหารทำเองหรืออาหารปรุงเอง
ส่วนใหญ่จะคล้ายคลึงกับอาหารคนนี่แหละครับ เช่น ข้าวคลุกปลาทู ข้าวกับอกไก่ ตับไก่บด หรืออื่น ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละบ้าน ซึ่งอาหารประเภทนี้ หมออยากให้เช็คก่อนสักนิดนึงว่าในจานนั้นที่คุณจะทำมา แมวกินอะไรได้บ้าง? เพราะอาหารบางอย่างอาจเป็นอันตรายต่อน้องแมวได้
- อาหารบาร์ฟ (Barf) หรืออาหารดิบที่ไม่ผ่านการปรุงใด ๆ
อาหารประเภทนี้มีจุดประสงค์มาจากการเลียนแบบสัตว์ป่าที่กินเนื้อดิบสด ๆ ทำให้ได้สารอาหารครบถ้วน และมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งตัวน้องแมวเองก็เป็นสัตว์กินเนื้ออยู่แล้ว ระบบย่อยอาหารไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ถ้าเนื้อดิบที่นำมาให้น้องแมวคุณภาพไม่ดี มาจากแหล่งที่ไม่สะอาด อาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียที่ทำให้แมวป่วยได้ครับ ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
แมวกินอะไรได้บ้าง?
เหตุผลที่เราควรรู้ว่าแมวกินอะไรได้บ้าง เป็นเพราะว่าแมวเค้าไม่รู้หรอกครับ ว่าอาหารแบบไหนเป็นอันตรายหรือไม่เป็นอันตรายต่อตัวเองบ้าง เวลาที่ทาสอย่างเรากินอะไร แมวก็มักจะมาด้อม ๆ มอง ๆ อยากจะมาลิ้มรสหรือลองชิมด้วย โดยเฉพาะกับอาหารคนที่เรากินทุกวัน ๆ ทาสบางคนอาจจะไม่ได้ทราบว่าแมวกินอะไรได้บ้าง หรือไม่ควรกินอะไรบ้าง เห็นแมวมาขอกินก็ให้กินทุกอย่าง สุดท้ายอาจทำให้แมวมีสุขภาพแย่ลงและตายจากไปได้ในที่สุด เรามาดูกันครับว่าน้องแมวกินอะไรได้บ้าง และอาหารแบบไหนบ้างที่มีประโยชน์สำหรับน้องแมวของเรา
- เนื้อสัตว์ที่ถูกปรุงสุกแล้ว
อย่างที่เราทราบว่าแมวเป็นสัตว์นักล่าและมีการกินเนื้อ หากคุณไม่ได้ให้แมวของคุณกินอาหารบาร์ฟเป็นประจำ แต่อยากให้เนื้อสัตว์เพื่อเสริมสร้างโปรตีนและความแข็งแรงให้ร่างกาย หมอแนะนำให้เลือกเป็นเนื้อสัตว์ปรุงสุก ไม่ควรปรุงรสด้วยซอสหรือเครื่องปรุงสำหรับคนกิน ควรแยกกระดูกออกไม่ว่าจะเล็กแค่ไหนก็ตาม และควรหั่นให้เป็นชิ้นเล็กพอดีคำ เพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหาเรื่องอาหารติดคอด้วยครับ
- ไข่ต้ม
ไข่ไก่ต้มสุกก็เป็นอีกแหล่งในหารเพิ่มโปรตีนให้แก่น้องแมว ข้อควรระวังคือต้องต้มไข่ให้สุกทั่วทั้งใบ ไม่ควรให้ไข่แบบกึ่งสุกกึ่งดิบ หรือไข่ดิบแก่น้องแมว เพราะอาจทำให้แมวติดเชื้อจากภายในได้ ทั้งนี้ น้องแมวบางตัวก็มีอาการแพ้ไข่ ดังนั้น ครั้งแรกที่จะให้ไข่ต้มน้องแมว ให้แมวกินทีละนิดและสังเกตอาการไปก่อน หากไม่มีความผิดปกติอะไร ก็สามารถให้กินไข่ไก่ต้มได้วันละ 1 ฟอง
- เนื้อปลาที่ถูกปรุงสุกแล้ว
แมวเป็นสัตว์ที่ชื่นชอบอาหารที่มีกลิ่นคาวและเค็ม ซึ่งปลาก็ค่อนข้างตรงโจทย์ ทำให้แมวส่วนใหญ่ชอบทานปลานั่นเอง แต่เวลาที่เราให้ปลาเป็นอาหารสำหรับแมว ปลาจะต้องถูกปรุงสุกมาก่อนนะครับ ไม่แนะนำให้น้องแมวทานปลาดิบ เพราะจะทำให้เกิดโรคได้ รวมถึงทาสอย่างเราจะต้องนำก้างเล็กใหญ่ทุกชิ้นออกก่อนด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ก้างติดคอแมว
- ผักและผลไม้
ผักและผลไม้มีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ อุดมไปด้วยวิตามินมากมาย มีกากใย และยังช่วยเติมน้ำให้ร่างกายน้องแมวของเราด้วย ก่อนที่จะให้ผักผลไม้แก่น้องแมวเราต้องล้างทำความสะอาด เอาเมล็ดออก และหั่นเป็นชิ้นพอดีคำให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งผักจะต้องนำไปปรุงสุกเสียก่อน เช่น การต้ม อบ หรือนึ่ง เพื่อให้น้องแมวทานง่ายขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ การให้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะถ้าให้ผักผลไม้มากเกินไป อาจทำให้แมวมีอาการท้องเสียได้
เมนูต้องห้ามสำหรับน้องแมว ห้ามให้เด็ดขาด!
หลังจากที่เราทราบแล้วว่าแมวกินอะไรได้บ้าง เราต้องรู้ด้วยว่าอาหารแบบไหนที่ไม่ควรให้แมวกินเด็ดขาด เพราะพิษที่อยู่ในอาหารเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกาย เช่น ท้องเสีย, อาเจียน, ขนร่วง, ช็อค, หัวใจเต้นผิดปกติ, ไตวายเฉียบพลัน และอื่น ๆ อีกมากมาย รู้ไว้ไม่เสี่ยงนะครับ น้องแมวจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ
- ผลิตภัณฑ์จากนมวัว
เนื่องจากน้องแมวไม่มีเอนไซม์ในการย่อยน้ำตาลแลคโตสที่อยู่ในนมวัว เมื่อกินแล้ว อาจทำให้แมวมีอาการท้องเสียได้ครับ หากต้องการให้นมแมว แนะนำเป็นนมแพะมากกว่า หรือจะเลือกเป็นนมสำหรับแมว หรือนมที่ไม่มีน้ำตาลแลคโตสก็ได้ครับ
- กระดูกและก้างปลา
ไม่ควรให้มีกระดูกสัตว์หรือก้างปลาปะปนลงไปในอาหารแมว เพราะกระดูกและก้างมีความแหลมคมและแข็งมาก อาจทำให้เกิดบาดแผลในช่องปาก, แผลในลำคอ, ติดคอ, ไอเป็นเลือด, กระเพาะทะลุ และอื่น ๆ ได้
- พืชผัก ผลไม้ และถั่วบางชนิด
เช่น หอมแดง, กระเทียม, หอมหัวใหญ่, มันฝรั่ง, มะเขือเทศ, อะโวคาโด, องุ่น, ลูกเกด, ถั่วแมคคาเดเมียและ โกโก้ สิ่งเหล่านี้งดให้แมวทานโดยเด็ดขาด เพราะส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และอาจทำให้น้องแมวเสียชีวิตได้
- อาหารและเครื่องดื่มบางชนิดของมนุษย์
ใช่ว่าอาหารทุกอย่างที่มนุษย์กินเข้าไปแล้ว แมวจะกินได้หมดนะครับ อาหารคนบางอย่างก็เป็นสิ่งต้องห้าม ใครที่เลี้ยงน้องแมวไว้ใกล้ตัวและชอบทานข้างที่บ้าน ต้องรู้! ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลต, เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกชนิด, ตับ, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, น้ำอัดลม, ลูกอม, หมากฝรั่ง, ขนมขบเคี้ยว, อาหารรสเค็ม, อาหารที่มีโซเดียมสูง และรวมไปถึงยาต่าง ๆ เช่น พาราเซตามอล เป็นต้น
แมวกินน้อยลง หรือไม่กินอาหาร หมายถึงอะไร?
แมวกินอาหารน้องลงหรือแมวไม่กินอาหารเหมือนปกติ อาจจะแปลว่าน้องแมวกำลังอยู่ในสภาวะผิดปกติ หรือมีอาการป่วย โดยวิสัยของแมวแล้ว หากไม่ได้มีอาการป่วยหรือบาดเจ็บหนักจริง ๆ ก็แทบจะไม่แสดงอาการออกมาเลยนะครับ เราจึงต้องคอยสังเกตให้ดีว่าแมวของเราทานอาหารตามปกติไหม? ทานน้อยลงรึเปล่า? มีอาการเบื่ออาหารนานแค่ไหน? ยิ่งปล่อยไว้นาน อาจทำให้แมวขาดสารอาหาร ขาดน้ำ จนเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และทำให้อาการป่วยแย่ลงกว่าเดิมได้ หากเจอเหตุการณ์เช่นนี้ แนะนำให้พาแมวไปตรวจเช็คสุขภาพกับคลินิกรักษาสัตว์อย่าง Ultravet Pet โดยตรงดีกว่าปล่อยไว้ต่อไปเรื่อย ๆ ครับ
ไม่เพียงแต่อาการป่วยเท่านั้น ที่ทำให้แมวไม่กินอาหารหรือกินน้อยลง แมวบางรายอาจจะกำลังตั้งท้องอยู่ก็เป็นได้ หรือรวมไปถึงนิสัยส่วนตัวที่เลือกกินอาหารของน้องแมว, อาหารที่มีความร้อนสูงเกินไป, อาหารที่เย็นเกินไป, อาหารใหม่ที่ไม่คุ้นเคยกลิ่น หรือรวมไปถึงอาหารบูดอาหารเสีย ตรงนี้ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แมวไม่กินอาหารได้ครับ
สรุป
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หวังว่าทุกคนจะทราบกันแล้วนะครับ ว่าแมวกินอะไรได้บ้างและไม่ควรกินอะไรบ้าง สำหรับใครที่ต้องการตรวจสุขภาพน้องแมว ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพช่องปาก หรือสุขภาพกาย สามารถเข้ามาพบหมอที่ Ultravet Pet ได้เลย โดยเฉพาะทาสที่สังเกตได้ว่าแมวมีท่าทีหรืออาการที่เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งโดยปกติแล้ว น้องแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยแสดงออกสักเท่าไหร่อยู่แล้ว ถ้าเป็นตัวที่มีนิสัยไม่แสดงอาการอีก ทาสอย่างเราคงยากที่จะรู้ว่าแมวของเราเจ็บป่วยหรือไม่ใช่ไหมล่ะครับ ยังไงก็อย่าลืมพาน้องแมวไปตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำด้วยนะครับ
ติดต่อ – ปรึกษาแพทย์
- Lakeside Villa 1 เลขที่ 901/3-5 (Shop 2) หมู่ 15 ถนน บางนา-ตราด,
- กรุงเทพมหานคร อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540
- เวลาทำการ : 09.00 – 20.00 น. (หยุดวันอังคาร)
- เบอร์ติดต่อ : 065-526-5994
- Line : @Ultravet
สัตวแพทย์ประจำ
Ultravet Pet Wellness Clinic
น.สพ.ศุภกิตติ์ สีดำ (คุณหมอเอ็ม)