การได้เห็นน้องหมาของเราวิ่งเล่นด้วยความร่าเริง ถือเป็นภาพที่คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนคงจะใจบางและมีความสุขอย่างมากเลยใช่ไหมครับ แต่หากวันหนึ่งน้อง ๆ ไม่สามารถร่าเริงแบบนั้นได้เนื่องจากการได้รับเชื้อ โรคหัดสุนัข คงเป็นอะไรที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นวันนี้หมอเอ็มจึงอยากชวนคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับโรคหัดสุนัขกันให้มากขึ้น เพื่อที่เราจะได้รับมือและป้องกันน้อง ๆ ให้ปลอดภัยได้มากที่สุดครับ เราไปดูกันเลยดีกว่าครับว่า โรคหัดสุนัขเกิดจากอะไร? แล้วเราควรจะป้องกันด้วยวิธีใดบ้าง? ให้สุนัขของเราปลอดภัยจากโรคหัดอยู่เสมอครับ – หมอเอ็ม Ultravet
โรคหัดสุนัข (Canine distemper) คือโรคติดต่อร้ายแรงในสุนัขที่มีสาเหตุมาจากการได้รับเชื้อไวรัสกลุ่ม Morbillivirus ซึ่งจัดเป็น RNA Virus ที่แพร่ระบาดกันในกลุ่มของน้องหมาวัย 6-12 สัปดาห์ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนเป็นส่วนมาก โรคไข้หัดสุนัขจะใช้เวลาในการฟักตัวของเชื้อโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7-14 วัน ในช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่ของน้อง ๆ จะยังไม่พบอาการผิดปกติใด ๆ แต่เมื่อผ่านระยะฟักตัวไปแล้ว จะมีอาการผิดปกติในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบทางเดินหายใจ ระบบขับถ่าย ระบบผิวหนัง และระบบประสาท ซึ่งโรคไข้หัดสุนัขหากไม่ได้รับการรักษาจะก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ครับ ยิ่งในกลุ่มของสุนัขที่ไม่เคยรับวัคซีนมาก่อน จะยิ่งมีโอกาสสูงที่ภูมิจะตกจนต้านท้านเชื้อไวรัสไม่ไหวครับ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ความใส่ใจต่อการป้องกันเชื้อโรคหัดสุนัขครับ
การแพร่ระบาดของโรคหัดสุนัข
สำหรับน้อง ๆ สุนัขที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัด สามารถเกิดได้กับสุนัขทุกช่วงวัยเลยครับ โดยเฉพาะในกลุ่มของสุนัขวัยเด็กที่ไม่ได้รับการดูแลในเรื่องของการฉีดวัคซีน โดยการแพร่ระบาดของโรคหัดสุนัขมีวงจรการกระจายเชื้อ ดังนี้ครับ
- แรกเริ่มของการแพร่เชื้อไข้หัดสุนัข จะมาจากการที่สุนัขไปสัมผัสกับสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย จากสุนัขที่ป่วยและมีไวรัสโรคหัดอยู่ในตัว นอกจากนี้ยังสามารถติดผ่านระบบทางเดินหายใจได้ด้วยครับ
- หลังจากนั้นเชื้อหัดจะใช้เวลาฟักตัวในร่างกายของสุนัขอยู่ที่ 7-14 วัน
- เมื่อเชื้อไวรัสเจริญเติบโตแล้ว ก็จะกระจายเชื้อไปทั่วร่างกายของสุนัขเลยครับ ทำให้น้อง ๆ มีการติดเชื้อในระบบน้ำเหลือง ซึ่งส่งผลให้ภูมิคุ้มกันภายในร่างกายของสุนัขตก
- ในช่วงนี้ร่างกายของสุนัขจะมีความอ่อนแอลงอย่างสังเกตได้ จึงทำให้ในบางเคสมีอาการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้
- หากน้องหมายังไม่ได้รับการรักษาและแยกตัวออกมา จะทำให้เชื้อโรคหัดสุนัขจากน้องตัวที่ป่วย แพร่กระจายไปยังน้องหมาตัวอื่น ๆ ได้ต่อไปเป็นทอด ๆ ครับ
โรคหัดสุนัข ติดคนไหม?
โรคหัดสุนัขไม่สามารถติดต่อกับคนได้ครับ แม้จะมีต้นเหตุมาจากเชื้อไวรัส แต่โรคหัดในคนกับสุนัขถือเป็นเชื้อคนละตัวกันครับ ดังนั้นจึงไม่สามารถแพร่เชื้อติดกันได้ครับ ซึ่งโรคหัดสุนัขจะแพร่ระบาดกันในกลุ่มของสุนัขด้วยกันเท่านั้นครับ หากพบว่ามีสุนัขป่วยจึงควรแยกน้องออกจากกลุ่มสุนัขด้วยกัน เพื่อลดโอกาสสัมผัสเชื้อในสุนัขตัวอื่นครับ
อาการของโรคหัดสุนัข
อาการของโรคหัดสุนัขคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตอาการได้ไม่ยากเลยครับ แรกเริ่มจะมีอาการคล้ายกับเป็นไข้หวัด แต่จะมีจุดที่แตกต่างไปเช่น อาการป่วยเป็นนานและจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเช็กอาการของสุนัขเบื้องต้นได้ดังนี้ครับ
- มีไข้สูง ซึม และอ่อนเพลีย ในบางเคสสุนัขอาจมีอาการเบื่ออาหารหรือทานได้น้อยลง
- มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ พบน้ำมูก ไอ จาม และมีอาการเยื่อบุตาอักเสบ (ในกรณีของโรคหัดสุนัขน้ำมูกและน้ำตาจะมีความเหนียวข้นกว่าปกติ) และยังสามารถพบอาการสุนัขถ่ายเหลวได้ด้วยครับ
- มีปัญหาโรคผิวหนังสุนัข เช่น มีตุ่มแดงและเป็นหนองกระจายตามลำตัว โดยจะพบเป็นจำนวนมากบริเวณใต้ท้อง
- มีปัญหาระบบประสาท ตรงจุดนี้เป็นอาการที่น่ากลัวมากครับ เพราะหมายความว่าเชื้อไวรัสได้กระจายเข้าสู่ระบบประสาทของสุนัข ทำให้น้อง ๆ มีอาการชักกระตุกแบบเคี้ยวฟัน ลำตัวเกร็ง และควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองไม่ได้
แม้ว่าอาการของโรคไข้หัดสุนัขจะส่งผลเสียต่อร่างกายของน้อง ๆ หลากหลายด้าน แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เพราะโรคนี้หากเราป้องกันดีและพาน้อง ๆ มาพบสัตวแพทย์ทันการ ก็จะทำให้น้อง ๆ หายเป็นปกติและกลับมาแข็งแรงได้อย่างแน่นอนครับ โดยวิธีการรักษาโรคหัดสุนัขและแนวทางป้องกัน หมอได้อธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ไว้ที่ด้านล่างให้แล้วนะครับ
วิธีรักษา 'โรคหัดสุนัข' และแนวทางการป้องกัน
การรักษาโรคหัดสุนัขในปัจจุบัน ยังคงเป็นแผนการรักษาที่เน้นการประคับประคองอาการ เนื่องจากในทางการแพทย์ยังไม่มีตัวยาที่ใช้รักษาอาการโรคหัดสุนัขได้โดยเฉพาะ สำหรับสุนัขที่เข้าข่ายว่ามีโอกาสติดเชื้อโรคหัดสุนัข หมอจะทำการตรวจหาโรคโดยการตรวจหาเชื้อไวรัสในกระแสเลือด น้ำมูก น้ำตา และสารคัดหลั่งต่าง ๆ ซึ่งการตรวจหาเชื้อด้วยวิธีนี้ถือเป็นการตรวจหาโรคที่มีความแม่นยำสูงมากครับ หากผลของเลือดสุนัขออกมาเป็นบวกนั่นหมายถึงสุนัขมีเชื้อโรคหัดครับ โดยแผนการรักษาอาการเบื้องต้นของหมอเอ็มที่ Ultravet Pet Wellness Clinic มีดังนี้ครับ
-
การติดเชื้อไวรัสหัดระยะแรก
สุนัขจะยังไม่มีอาการที่รุนแรงมากนัก หมอจะเน้นเป็นการให้ยาปฎิชีวนะเพื่อควบคุมไม่ให้เชื้อไวรัสเติบโตหรือแพร่กระจายไปในระบบต่าง ๆ แต่ทั้งนี้หมอก็จะมีการจ่ายยาให้เหมาะกับความพร้อมของร่างกายและอาการของน้อง ๆ ด้วยครับ ดังนั้นในแต่ละเคสจึงอาจได้รับปริมาณยาที่แตกต่างกันไปครับ
-
การติดเชื้อไวรัสหัดระยะสอง
สำหรับสุนัขที่มีการติดเชื้อในช่วงนี้จะมีอาการขาดสารอาหาร และอาจมีความผิดปกติที่ระบบทางเดินหายใจ น้อง ๆ จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการให้น้ำเกลือ และสารอาการทางหลอดเลือดดำ ในบางกรณีที่หายใจติดขัดมาก ๆ หมอจะมีการให้ออกซิเจน เพื่อรักษาระดับของออกซิเจนให้เหมาะสมครับ
-
การติดเชื้อไวรัสหัดระยะสาม
สุนัขที่มีปัญหาในระบบประสาทและสมอง จะได้รับการรักษาโดยการใช้ยาระงับอาการชัก ซึ่งความรุนแรงของระยะนี้ค่อนข้างรักษาอาการได้ยากมาก ๆ ครับ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรพาน้องหมามาตรวจสุขภาพทุก ๆ ปีจะดีที่สุดครับ
แนวทางการป้องกันโรคหัดสุนัข
โรคหัดสุนัข สามารถป้องกันได้ง่าย ๆ เลยครับ ด้วยการพาน้องหมามาฉีดวัคซีนให้ครบตามแผน เพราะในวัคซีนของสุนัขจะมีการกระตุ้นให้ร่างกายของน้อง ๆ เกิดภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรงและติดเชื้อได้ยากขึ้นครับ ซึ่งวัคซีนที่ Ultravet Pet จะเน้นให้น้อง ๆ สุนัขฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าและวัคซีนรวมสุนัข 5 โรค ที่ประกอบไปด้วย
- วัคซีนไข้หัดสุนัข
- วัคซีนโรคตับอักเสบ
- วัคซีนโรคหลอดลมอักเสบติดต่อ
- วัคซีนโรคลำไส้อักเสบ
- วัคซีนโรคฉี่หนู
การที่สุนัขได้รับวัคซีนดังกล่าว จึงเป็นวิธีป้องกันโรคหัดสุนัขที่เห็นผลดีและช่วยให้น้อง ๆ ปลอดภัยจากโรคร้ายแรงในสุนัขได้มากเลยครับ ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่ที่เพิ่งรับน้องหมามาเลี้ยง จึงควรพาน้อง ๆ มาตรวจสุขภาพก่อน แล้วจึงรับแผนการฉีดวัคซีนที่เหมาะสมกับทางสัตวแพทย์ต่อไปครับ
ความสำคัญของการฉีดวัคซีนให้สุนัข
- ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโรคให้สุนัข
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรง
- ช่วยยืดอายุขัยให้กับสุนัข
- เสริมให้สุนัขแข็งแรงและป่วยน้อยลง
- หากสุนัขได้รับเชื้อโรคจะลดความรุนแรงของโรคได้
- ลดการแพร่ระบาดเชื้อโรคติดต่อในกลุ่มสุนัข
ตรวจสุขภาพประจำปีสุนัขกับ Ultravet Pet Wellness Clinic
นอกจากการฉีดวัคซีนจะช่วยป้องกันโรคหัดสุนัขได้มีประสิทธิภาพแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญมาก ๆ คือคุณพ่อคุณแม่ควรพาน้อง ๆ มาตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพราะอย่างที่หมอได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าในช่วงที่เชื้อไวรัสฟักตัว น้อง ๆ จะไม่แสดงอาการอะไรเลยครับ อีกทั้งอากาศหลังจากนั้นยังมีความคล้ายคลึงกับไข้หวัดทั่วไป จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนละเลยในจุดนี้ไปได้ ซึ่งกว่าน้อง ๆ จะมาถึงมือหมอก็อาจมีการรุกลามของเชื้อไปทั่วร่างกายแล้ว ดังนั้นการตรวจสุขภาพทุกปีจึงช่วยให้เราได้ทราบถึงสุขภาพภายในของน้อง ๆ ที่แม่นยำและชัดเจน จึงทำให้สุนัขได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ โอกาสหายจากโรคหัดจึงมีเปอร์เซ็นต์สูงไปด้วยครับ
บทความที่คนรักสัตว์ต้องอ่าน !!
- ทำไมต้องขูดหินปูนสุนัขและแมว?
- 3 หัวข้อน่ารู้! ก่อนทำหมันแมวหรือสุนัข
- 11 เคล็ดลับวิธีป้องกันและกำจัดเห็บหมัดในสุนัขแบบอยู่หมัด
- อาบน้ำ ตัดขน สปา ให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณ
สรุป
หมอเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ที่อ่านมาถึงตรงนี้ จะมีความเข้าใจในเรื่องของโรคหัดสุนัขกันมากขึ้นแล้วนะครับ ซึ่งหมอก็หวังว่าสาระที่หมอได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้ จะมีประโยชน์ต่อผู้ที่รักสุนัขทุกคนนะครับ และหากว่าใครที่กำลังรู้สึกว่าน้องหมาที่บ้านมีอาการตรงกับที่หมอได้กล่าวไป ก็อย่าลังเลที่จะพาน้อง ๆ มาตรวจสุขภาพเลยนะครับ เพราะการรักษาที่ทันท่วงทีจะดีต่อตัวสุนัขอย่างมากครับ
ติดต่อ – ปรึกษาแพทย์
- Lakeside Villa 1 เลขที่ 901/3-5 (Shop 2) หมู่ 15 ถนน บางนา-ตราด,
- กรุงเทพมหานคร อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540
- เวลาทำการ : 09.00 – 20.00 น. (หยุดวันอังคาร)
- เบอร์ติดต่อ : 065-526-5994
- Line : @Ultravet
สัตวแพทย์ประจำ Ultravet Pet Wellness Clinic
น.สพ.ศุภกิตติ์ สีดำ (คุณหมอเอ็ม)