ไรในหูแมว (Ears mite) คืออะไร? ป้องกันน้องแมวอย่างไร!

ไรในหูแมว

คุณหมอน้องแมวเกาหูบ่อยมากทำยังไงดี! ปัญหา คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเครียดไปนะครับวันนี้ หมอเอ็ม Ultravet Pet พร้อมพาทุกคนไปทำความรู้จักกับโรคนี้ให้มากขึ้น พร้อมแนวทางป้องกันบรรดาไรตัวร้าย ไม่ให้มากัดกินความสุขจากน้องแมวที่เรารัก เพราะตัวไรเหล่านี้ไม่เพียงแค่สร้างความรำคาญให้กับน้องแมวเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งผลต่อสุขภาพภายในของน้องแมวเราได้ด้วยนะครับ – หมอเอ็ม Ultravet Pet

ไรในหูแมว

โรคไรในหูแมว เป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่งที่ทำให้น้องแมวเกิดอาหารคัน มีขี้หูมากกว่าปกติ ในบางเคสที่เกิดอาการคันมาก ๆ น้องแมวอาจเกาจนเกิดเป็นแผลได้ด้วยครับ ซึ่งเจ้าตัวไรเหล่านี้จะมีการฟักตัวและแพร่กระจายไปติดต่อยังแมวตัวอื่น ๆ ด้วย เรื่องนี้จึงเป็นส่วนที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยเฝ้าระวังมาก ๆ ครับ สำหรับระยะการฟักตัวของตัวไรจะแบ่งหลัก ๆ ดังนี้

ระยะที่ 1: เป็นช่วงที่น้องแมวเพิ่งได้รับตัวไรเข้ามาในร่างกาย ตัวไรยังเป็นตัวอ่อนที่กำลังฟักตัวอยู่

ระยะที่ 2: ในช่วงระยะนี้เป็นวัยที่ตัวไรกำลังเข้าสู่วัยโตเต็มวัย

ระยะที่ 3: เป็นวัยที่ตัวไรโตเต็มวัยจนสามารถส่งผลต่อสุขภาพของน้องแมวได้ และมีอายุได้นานถึง 2 เดือน

ไรในหูแมว เกิดจากอะไร

สำหรับสาเหตุที่ทำให้น้องแมวติดโรคนี้ หลัก ๆ จะมาจากการแพร่กระจายตัวไรจากแมวและสุนัขตัวอื่น เมื่อแมวของเราไปนอนทับที่ของแมวตัวที่มีตัวไร หรือ อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ก็ย่อมทำให้นอนแมวได้รับตัวไรนี้มาได้ง่าย ๆ เลยครับ และหาว่ายังไม่มีการกำจัดไรในหูของแมวทุกตัว ก็ทำให้น้อง ๆ ติดโรคนี้ไปเรื่อย ๆ เลยครับ

ไรในหูแมว

นอกจากนี้โรคไรในหูแมวยังสามารถเกิดจากการที่ น้องแมวไม่ค่อยได้ดูแลความสะอาดขนและที่อยู่ด้วยครับ สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่ไม่ค่อยอาบน้ำให้น้อง ๆ หรือในกลุ่มของแมวขนยาวที่ไม่ได้แปรงขนบ่อยหรือตัดขน ก็จะมีความเสี่ยงในการที่จะมีตัวไรมาอาศัยอยู่ได้ครับ

ลงทะเบียนปรึกษาฟรี

เลี้ยงนอกแมวแบบเปิด ต้องระวังเชื้อโรคให้ดี!

แน่นอนว่าการพาน้องแมวออกไปเที่ยวเล่นที่นอกบ้าน จะช่วยให้น้องแมวได้คลายเครียดมากขึ้น แต่หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่เลี้ยงน้อแมวแบบเปิด หมอก็อยากจะแนะนำให้เฝ้าดูอาการและพฤติกรรมให้ดีนะครับ เพราะข้างนอกบ้านมีทั้งปรสิตและเชื้อโรคปะปนอยู่ในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็น ตัวไร เชื้อรา พยาธิต่าง ๆ ทำให้น้องแมวป่วยง่ายขึ้น และในน้องแมวที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหล่านี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น

  • โรคเชื้อราแมว
  • โรคพยาธิหนอนหัวใจ
  • โรค FIP แมว
  • โรคไรในหูแมว
  • โรคผิวหนังแมว

ดังนั้นการฉีดวัคซีนให้น้องแมวจึงจำเป็นมาก ๆ ครับ เพราะภูมิคุ้มกันของน้องแมวจะแข็งแรงมากพอที่จะสู้ต่อเชื้อโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้น หากมีการได้รับเชื้อก็จะทำให้อาการไม่รุนแรงเกินการรักษาครับ

อาการของน้องแมวที่มี “ปัญหาไรในหูแมว”

ต้องบอกก่อนว่าเจ้าตัวไรมีขนาดที่เล็กมาก ๆ ครับ คุณพ่อคุณแม่จะไม่สามารถสังเกตเห็นเจ้าตัวไรพวกนี้ได้เลยครับ ต้องให้สัตวแพทย์ใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูเท่านั้นครับ แต่เราสามารถเช็กอาการเบื้องต้นของน้องแมวได้ดังนี้ครับ

ไรในหูแมว
  • น้องแมวเกาที่หูและข้างแก้มบ่อย หากในหนึ่งวันคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็นน้องแมว มีพฤติกรรมเกาบริเวณดังกล่าวตลอดเวลา รวมทั้งเการุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ อาการนี้ถือเป็นสัญญาณของตัวไรที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดครับ
  • น้องแมวมีขี้หูเยอะ เป็นธรรมดาที่น้องแมวต้องมีขี้หูใช่ไหมครับ แต่เมื่อไหร่ที่สังเกตเห็นว่าปริมาณของขี้หูน้องแมวมีเยอะขึ้นและมีสีออกน้ำตาลเข้ม ต้องเช็กทำความสะอาดอยู่วันละหลายรอบ อันนี้ถือว่าเป็นความผิดปกติที่ควรพาน้อง ๆ มาตรวจหาตัวไรครับ
  • น้องแมวมีสะเก็ดสีดำที่หู ไม่ว่าจะสะเก็ดสีดำ คราบสีดำ ล้วนเป็นอีกสิ่งผิดปกติที่เกิดจากตัวไรทั้งสิ้นเลยครับ 
  • น้องแมวมีกลิ่นเหม็นตุที่หู ในบางเคสที่น้องแมวมีตัวไรสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก จะส่งผลให้น้องแมวมีกลิ่นตุออกมาจากที่หูด้วยครับ

หากคุณพ่อคุณแม่พบอาการผิดปกติเหล่านี้ หมอแนะนำให้ทำความสะอาดหูก่อนในเบื้องต้น แล้วจึงพาน้อง ๆ มาตรวจหาตัวไรกับทางสัตวแพทย์อีกทีครับ

ไรในหูแมว อันตรายไหม

ตัวไรมีความอันตรายต่อสุขภาพภายในใบหูอย่างมากครับ และยังทำให้น้องแมวเกิดแผลและโรคผิวหนังบริเวณรอบใบหูได้ด้วยครับ และที่สำคัญคือเจ้าตัวไรพวกนี้ส่งผลให้น้องแมวรู้สึกทรมานจากอาการคัน ทำให้แมวเกิดความเครียดและทานอาหารได้น้อยลง ซึมและเล่นได้ไม่เต็มที่ เพราะรู้สึกไม่สบายตัวครับ การที่พ่อแม่อย่างเราเห็นน้อง ๆ ไม่มีความสุขก็ถือเป็นอันตรายที่ร้ายแรงแล้วครับ 

โรคไรในหูแมว รักษายังไงดี

คุณหมอเอ็ม สัตวแพทย์ประจำ Ultravet Pet Wellness Clinic

สำหรับการรักษาโรคไรหูในแมวที่ Ultravet Pet Wellness Clinic หมอเอ็มจะเป็นคนคอยดูแลน้อง ๆ เองเลยครับ โดยการรักษาจะเป็นการตรวจหูแบบ Ear Examination โดยสัตวแพทย์จะทำการเก็บขี้หูของน้องแมวในเบื้องต้นเพื่อนำไปส่องกล้องวินิจฉัย หลังจากนั้นเราจะทำการจ่ายยาหยอดหูและมีการดูแลเรื่องความสะอาดให้ใบหูน้องแมว ซึ่งการรักษาจะกินเวลานานอย่างน้อย 3 สัปดาห์ เพื่อให้วงจรของตัวไรหยุดการเติบโตอย่างสมบูรณ์ ในระหว่างที่รักษาคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องคอยดูแลในเรื่องของความสะอาดบริเวณเบาะนอนและของเล่นต่าง ๆ ครับ

หากในกรณีที่บ้านมีแมวหลายตัว ควรทำการรักษาไปพร้อม ๆ กัน หรือ จับแยกตัวที่เป็นออกมาจากเพื่อน ๆ เขาก่อนครับ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายตัวไรในกลุ่มกันเองครับ และหากต้องการป้องกันไม่ให้ตัวไรมาเข้าใกล้นอกแมวได้ ควรเลี้ยงน้องแมวแบบปิด ดูแลความสะอาดอาบน้ำแมวให้ดี และหมั่นพาน้อง ๆ มาตรวจสุขภาพประจำปีกันด้วยนะครับ

สรุป

          ตอนนี้ทาสแมวหลาย ๆ ท่าน ก็เข้าใจถึงสาเหตุของโรคไรในหูแมว และแนวทางการรักษามากขึ้นแล้วนะครับ สำหรับน้องแมวบ้านไหนที่กำลังมีปัญหานี้ คุณพ่อคุณแม่อย่านิ่งนอนใจนะครับ ควรรีบพาน้อง ๆ มารักษาจะเป็นการดีที่สุดครับ ที่ Ultravet Pet Wellness Clinic เรายินดีให้การดูแลอย่างดีที่สุดครับ

ติดต่อ – ปรึกษาแพทย์

  • Lakeside Villa 1 เลขที่ 901/3-5 (Shop 2) หมู่ 15 ถนน บางนา-ตราด, 
  • กรุงเทพมหานคร อำเภอบางพลี สมุทรปราการ 10540
  • เวลาทำการ : 09.00 – 20.00 น. (หยุดวันอังคาร)
  • เบอร์ติดต่อ : 065-526-5994
  • Line : @Ultravet

สัตวแพทย์ประจำ Ultravet Pet Wellness Clinic
น.สพ.ศุภกิตติ์ สีดำ (คุณหมอเอ็ม)

ลงทะเบียนปรึกษาหรือรับสิทธิพิเศษ ที่นี่


    Leave a Reply

    Your email address will not be published. Required fields are marked *